
คู่มือฉบับสมบูรณ์ปี 2025: บริการฝากสัมภาระที่สถานี JR ทั่วญี่ปุ่น
สำหรับนักเดินทางอิสระในญี่ปุ่น การลากกระเป๋าเดินทางหนักๆ ไปทั่วเมืองถือเป็นหนึ่งในเรื่องน่าหงุดหงิดที่สุดในการเดินทางอย่างไม่ต้องสงสัย โชคดีที่ตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญ (コインロッカー) ที่สถานีรถไฟ JR ช่วยชีวิตคุณได้! ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนขบวนรถไฟ ชมสถานที่ท่องเที่ยว หรือแค่แวะพักที่โรงแรมตอนดึก ตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย
บทความนี้ได้รวบรวมคู่มือการฝากสัมภาระที่สถานีรถไฟ JR ทั่วประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เคล็ดลับที่เป็นประโยชน์ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวลับๆ เพื่อช่วยให้คุณวางแผนการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ!
1. ประเภทของตู้ล็อกเกอร์ที่สถานีรถไฟ JR
ตู้ล็อกเกอร์ที่สถานีรถไฟ JR ในญี่ปุ่นมีสามขนาดหลัก (อาจแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละสถานี):
- ตู้ล็อกเกอร์ขนาดเล็ก (ประมาณ 35 × 31 × 64 ซม.): เหมาะสำหรับกระเป๋าเป้และกระเป๋าถือ ราคาประมาณ 300-400 เยน/วัน
- ล็อกเกอร์ขนาดกลาง (ประมาณ 35 × 54 × 64 ซม.): รองรับกระเป๋าเดินทางขนาด 20-24 นิ้ว ราคาประมาณ 400-500 เยน/วัน
- ล็อกเกอร์ขนาดใหญ่ (ประมาณ 35 × 83.5 × 64 ซม.): รองรับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่กว่า 28 นิ้ว ราคาประมาณ 500-800 เยน/วัน

2. ราคาและระยะเวลาการจัดเก็บ
- อัตราค่าบริการรายวัน: โดยปกติแล้ว อัตราค่าบริการรายวันจะคิดตามเวลาของวันถัดไป (เช่น หากฝากสัมภาระเวลา 10:00 น. จะต้องมารับสัมภาระภายในเวลา 10:00 น. ของวันถัดไป)
- ความแตกต่างในแต่ละภูมิภาค: ราคาจะสูงกว่าที่สถานียอดนิยม เช่น โตเกียวและโอซาก้า (เช่น ล็อกเกอร์ขนาดใหญ่ที่สถานีโตเกียวราคาประมาณ 700 เยน) ในขณะที่ราคาจะค่อนข้างถูกกว่าที่สถานีภูมิภาค (เช่น ประมาณ 500 เยนที่สถานีฟุกุโอกะ-ฮากาตะ)

3. คำแนะนำ
ค้นหาพื้นที่ล็อกเกอร์: สถานี JR มักจะมีป้าย ("コインロッカー" หรือ "ล็อกเกอร์") ที่ชัดเจนตั้งอยู่ใกล้กับประตูตรวจตั๋วหรือทางเข้าชานชาลา ก่อนอื่นให้ตรวจสอบว่าล็อกเกอร์มีไฟสีเขียวหรือไม่ หากมี แสดงว่าพร้อมใช้งาน

เลือกล็อกเกอร์ว่าง: วางสัมภาระลงในล็อกเกอร์แล้วกดปุ่มล็อก จอภาพสีดำของล็อกเกอร์จะแสดงหมายเลขล็อกเกอร์ คลิกยืนยัน

การทำงานของอินเทอร์เฟซ: เข้าสู่อินเทอร์เฟซ "Put in Baggage" และ "Take Out Baggage" เลือก "ภาษาจีนตัวย่อ" ที่ด้านบนก่อน จากนั้นเลือก "Put in Baggage"

เลือกวิธีการชำระเงิน: มีทั้งบัตร IC และเงินสด สามารถชำระด้วยบัตร IC ได้ด้วยบัตรโดยสารในญี่ปุ่น เช่น Suica และ ICOCA นอกจากนี้ยังสามารถใช้บัตรเครดิตได้อีกด้วย

เลือกวิธีปลดล็อกการรับสินค้า: หากคุณชำระด้วยเงินสด ระบบจะพิมพ์กระดาษพร้อมรหัสปลดล็อกออกมา โปรดเก็บกระดาษนี้ไว้และอย่าทำหาย

รับสินค้า: เมื่อรับสินค้า หากชำระด้วยเงินสด ให้สแกนสลิปรหัสปลดล็อกบนเครื่อง หากชำระด้วยบัตร IC ให้วางบัตรที่ใช้ชำระเงินลงบนพื้นที่ตรวจจับการชำระเงิน แล้วสแกนเพื่อเปิดประตูตู้

⚠️มีตู้เก็บของอยู่หลายชั้นใต้ดินในศูนย์กลางการขนส่งขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น หากหาตู้ที่ชั้นหนึ่งไม่เจอ ก็สามารถหาที่ชั้นหนึ่งหรือชั้นสองใต้พื้นดินได้ อัตราตู้เปล่าในชั้นเหล่านี้ยังคงสูงมาก

4. คำถามที่พบบ่อย
คำถามที่ 1: หากล็อกเกอร์เต็ม ควรทำอย่างไร
- ช่วงเวลาพิเศษ: การหาล็อกเกอร์ว่างก่อน 9:00 น. และหลัง 20:00 น. จะง่ายกว่า
- ทางเลือกอื่นๆ: ห้างสรรพสินค้าใกล้เคียง สถานีรถไฟใต้ดิน และร้านสะดวกซื้อ (เช่น ร้าน Lawson บางสาขา) มีบริการรับฝากสัมภาระเช่นกัน
คำถามที่ 2: หากเกินกำหนดเวลา สัมภาระของฉันจะถูกนำกลับไปหรือไม่
- ระยะเวลาผ่อนผัน: โดยปกติแล้ว คุณสามารถรับสัมภาระได้ภายใน 1-2 วันหลังจากกำหนดเวลา โดยเสียค่าธรรมเนียม (บางสถานีต้องติดต่อเจ้าหน้าที่)
- การรับฝากสัมภาระระยะยาว: ไม่แนะนำให้ฝากเกิน 3 วัน เนื่องจากบางสถานีจะเคลียร์สัมภาระระยะยาว
คำถามที่ 3: ฉันสามารถจองล็อกเกอร์ล่วงหน้าได้หรือไม่
- แอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการ: JR East และภูมิภาคอื่นๆ มีบริการติดตามสถานะล็อกเกอร์ออนไลน์ (เช่น "駅ロッカー空き検索")
